ทำความรู้จัก “โบท็อกหน้าผาก” คืออะไร?

โบท็อกหน้าผากคืออะไร?

โบท็อกหน้าผากคือการฉีดสารโบทูลินัม ทอกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A) เข้ากล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดริ้วรอย เช่น รอยย่นบนหน้าผาก หรือรอยย่นระหว่างคิ้ว การฉีดจะช่วยผ่อนแรงกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวนวลขึ้น ดวงตาดูผ่อนคลาย แลดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด

 ประโยชน์ของโบท็อกหน้าผาก

  • ลดริ้วรอยขณะขมวดคิ้ว/ยกคิ้ว: เห็นผลชัดเจนทั้งเวลายิ้ม พูด หรือแสดงสีหน้า
  • ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น: เมื่อริ้วรอยลดลง ผิวหน้าดูเรียบเนียน ดวงตาดูสว่างสดใส
  • ปรับทรงคิ้วให้สมดุล: โบท็อกส่วนหน้าผากช่วยยกคิ้วเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูเปิดกว้าง กล้ามเนื้อที่ควบคุมคิ้วทำงานพอดี
  • ไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน: สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสี่ยงจากการผ่าตัด

กลไกการทำงาน

เมื่อโบท็อกถูกฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ จะเข้าไปยับยั้งสารสื่อประสาท (Acetylcholine) ชั่วคราวทำให้กล้ามเนื้อไม่หดเกร็ง แต่ยังสามารถขยับได้บ้างเล็กน้อยอย่างธรรมชาติ ผลลัพธ์คือริ้วรอยจะจางลง เห็นหน้าเรียบขึ้นแต่ไม่ดูแข็งหรือไร้อารมณ์ภาษาหน้า

 เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีริ้วรอยชัดตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะแนวนอนหน้าผากหรือแนวตั้งระหว่างคิ้ว
  • ผู้ที่ต้องการปรับให้ใบหน้าแลดูสดใส เปิดกว้างขึ้น โดยไม่อยากผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนลุคอย่างมีระดับ เห็นผลชัด แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

 ขั้นตอนก่อนและหลังฉีด

ก่อนฉีด

พบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์กล้ามเนื้อหน้าและริ้วรอย

วางแผนปริมาณและจุดฉีด เช่น กรณีแนวนอน หน้าผากกว้างอาจฉีดหลายจุดเกลี่ยให้ทั่ว1

ตรวจดูประวัติโรค และคำแนะนำก่อนฉีด เช่นไม่ควรทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด

ระหว่างฉีด

ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ ขั้นตอนละไม่เกิน 10–15 นาที

รู้สึกเจ็บนิดหน่อยเหมือนโดนมดกัด แต่ใช้เวลาสั้น ๆ

หลังฉีด

กล้ามเนื้อเริ่มคลายภายใน 3–5 วัน

ผลเต็มที่ชัดใน 10–14 วัน

ผลอยู่ได้นาน 3–6 เดือน (ขึ้นกับยี่ห้อและการใช้งานกล้ามเนื้อ)

อาจมีอาการปวดแบบตึงเล็กน้อย หรือรู้สึกชาแต่ไม่นาน

ข้อดีและสิ่งที่ควรระวัง

ข้อดี

ผิวหน้าดูเรียบเนียนเรียบร้อย เหมาะกับการปรับลุคให้ดูมีอายุที่ดีขึ้น

เห็นผลชัดแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ บริเวณที่ไม่ฉีดยังขยับตามปกติ

หัตถการรวดเร็ว ไม่มีแผล ไม่มีแผลเป็น

ข้อควรระวัง

หากฉีดผิดจุด หรือเลือกแพทย์ไม่ชำนาญ อาจหน้าผากตก หรือคิ้วหย่อน

ผลไม่ได้ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำทุก 3–6 เดือน

บางรายอาจมีรอยบวมช้ำเล็กน้อย หรือไมเกรนใน 1–2 วันแรก

 เลือกยี่ห้อโบท็อกและแพทย์อย่างไรให้ปลอดภัย

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีอย. ทั้งไทยและต่างประเทศ
  • ตรวจสอบแหล่งผลิตดูได้ว่าจัดเก็บ-ลำเลียงอย่างถูกต้อง
  • แพทย์ที่มีประสบการณ์มากพอโดยเฉพาะในบริเวณหน้าผาก จะช่วยลดความเสี่ยง
  • คลินิกควรมีรีวิวเคสจริง และมีบริการติดตามผลหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด

 สารทดแทนหรือกลุ่มผู้ที่ไม่สะดวกฉีดโบท็อก

  • โบท็อกปลอดสาร (Botox-like แบบใหม่): มีผลคล้ายโบท็อกแต่ใช้สารจากธรรมชาติหรือพืชที่ปลอดภัย
  • ฟิลเลอร์แนวนอน: ใช้ในจุดแก้ไขพวกริ้วรอยลึก แต่ไม่เหมาะกับเหนี่ยวกล้ามเนื้อ
  • Ulthera หรือ Hifu: กระตุ้นคอลลาเจนที่ใต้ผิวเพื่อยกกระชับ แต่ไม่ได้ลดกล้ามเนื้อโดยตรง
  • การดูแลผิวเชิงลึก: เช่น ใช้ครีม retinoid คู่กับการทำทรีตเมนต์หน้า เพื่อเสริมคอลลาเจนให้ผิวดีขึ้น ทั้งนี้ต้องต่อเนื่อง

 สรุป

  • โบท็อกหน้าผากคือหัตถการลดริ้วรอยโดยไม่ผ่าตัด เห็นผลเร็ว ไม่เจ็บมาก
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบนหน้าผากหรือคิ้ว ต้องการเปลี่ยนลุคให้ดูอ่อนกว่าอายุจริง
  • ต้องเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีแพทย์เชี่ยวชาญ และใช้ตัวยามีมาตรฐาน
  • ผลไม่ถาวร ต้องติดตามซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์